การประยุกต์การสอนกับขั้นตอนการสอนด้วยขั้นบันได
การจัดการเรียนรู้ในอนาคต
ในการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 มุ่งเน้นการศึกษาเพื่อพัฒนาด้านความรู้ ด้านทักษะ ด้านการความรู้สึกนึกคิด โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี การเรียนรู้จึงเป็นกระบวนการที่ผู้เรียนจะต้องลงมือปฏิบัติและกระทำด้วยตนเอง
1.ทักษะพื้นฐาน ได้แก่ สื่อสารสองภาษา การดำเนินงาน การแก้ปัญหา การใช้ ICT และการทำงานร่วมกับผู้อื่น
2.ทักษะการเรียนรู้และพัฒนาตน ได้แก่ เห็นคุณค่าและเชื่อมั่นในตนเอง
ตระหนักรู้ในตนและรู้จักตนเอง มีทัศนะเชิงบวกต่อการเรียนรู้
จัดการหรือควบคุมตนเองได้ และคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล
3.ทักษะพลเมืองและความรับผิดชอบต่อสังคมโลก ได้แก่ มีส่วนร่วมกับกิจกรรมชุมชนหรือสังคม
เคารพความหลากหลาย มีบทบาทหรือมีส่วนร่วมในการสร้างให้เกิดความเท่าเทียม
ความยุติธรรมในสังคม
4.ทักษะการทำงาน ได้แก่ วางแผนงานหรือกิจกรรมได้
มีทักษะการจัดการตนเองและผู้อื่น ตรงเวลา มีวินัย ทำงานด้วยตนเองได้
จัดลำดับความสำคัญของงานและทำงานได้ตามเวลา สามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้
ตั้งใจเตรียมการล่วงหน้าและยืดหยุ่น และมีจริยธรรมในการทำงาน
การพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเพื่อปรับตนเองในปัจจุบัน
ให้พร้อมรับกับสิ่งที่จะตามมาในอนาคต
1. มนุษย์มีรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน
ผู้สอนจึงต้องใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย
2. ผู้เรียนควรเป็นผู้กำหนดองค์ความรู้ของตนเอง
ไม่ใช่นำความรู้ไปใส่สมองผู้เรียน แล้วให้ผู้เรียนดำเนินรอยตามผู้สอน
3. โลกยุคใหม่ต้องการผู้เรียนซึ่งมีวินัย
มีพฤติกรรมที่รู้จักยืดหยุ่น หรือปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม
4. เนื่องจากข้อมูลข่าวสารในโลกจะทวีเพิ่มขึ้นเป็น
2 เท่า ทุกๆ 10 ปี
โรงเรียนจึงต้องใช้วิธีสอนที่หลากหลาย โดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ กัน
5. ให้ใช้กฎเหล็กของการศึกษาที่ว่า
“ระบบที่เข้มงวดจะผลิตคนที่เข้มงวด” และ
“ระบบที่ยืดหยุ่นก็จะผลิตคนที่รู้จักการยืดหยุ่น”
6. สังคม หรือชุมชนที่มั่งคั่ง
ร่ำรวยด้วยข้อมูลข่าวสาร ทำให้การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายๆ สถานที่
7. การเรียนรู้แบบเจาะลึก
(deep learning) มีความจำเป็นมากกว่าการเรียนรู้แบบผิวเผิน
8.การสอนที่จัดว่ามีประสิทธิภาพ
ต้องการครูที่มีคุณสมบัติมากกว่าการเป็นผู้ทำหน้าที่สอน
9. การศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียน
(schooling) กับ การศึกษา (education) อาจไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
10. โลกอนาคตจะให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาที่บ้าน
(Home – based education) มากขึ้น
การจัดการศึกษาในอนาคต
ทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ได้แก่
สาระวิชาหลัก
ภาษาแม่ และภาษาโลก, ศิลปะ, วิทยาศาสตร์,
คณิตศาสตร์, การปกครองและหน้าที่พลเมือง, เศรษฐศาสตร์, ภูมิศาสตร์, ประวัติศาสตร์ สาระวิชาหลักนี้จะต้องมี
Literacy >> ภาษา
Numeracy >> คำนวณ
Reasonig abilities>> เหตุผล
Numeracy >> คำนวณ
Reasonig abilities>> เหตุผล
สถานศึกษาแห่งศตวรรษที่ 21
ครูเพื่อศิษย์ต้องฝึกฝนตนเองให้มีทักษะในการเป็น ผู้สอนงาน (Coaching) และ เป็นพี่เลี้ยง (Mentoring) หรือ“คุณอำนวย” (facilitator)
ในการเรียนรู้แบบ PBL (Project-Based Learning) ของศิษย์ ครูต้อง เลิกเป็น “ผู้สอน” ผันตัวเองมาเป็นโค้ช หรือ พี่เลี้ยง
ของการเรียนของศิษย์ที่ส่วนใหญ่เรียนแบบ PBL
การสอนงาน : Coaching
การฝึกสอน
(Coaching) เป็นการบวนการฝึกสอนโดยเน้นการทำงานร่วมกันโดยผู้ฝึกสอนที่ทำหน้าที่เป็นครูฝึกสอน (Teacher) จะต้องมีทักษะ(Skills) ในการสอนและให้เน้นไปที่การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
เครื่องมือที่ใช้ในการ Coaching&Mentoring
- เน้นความสำคัญไปที่เป้าหมาย
มากกว่าปัญหา
- จงฟังให้มากกว่าพูด
- จงใช้การถามคำถาม
มากกว่าการสั่งให้ไปทำ
-การบอก - การให้ข้อมูลป้อนกลับ
-การสอน -
การถามคำถามปลายเปิด
-การแนะนำ - การท้าทายให้ทำงาน
- การรับฟัง
- การรับฟัง
กระบวนการการเรียนรู้ตามบันได
5 ขั้น
ศักยภาพทักษะผู้เรียนยุคใหม่
1)เรียนรู้การตั้งคำถาม
สงสัย ใคร่รู้ (Learning to Question :Q)
ใช้เทคนิค 5
w 1 H
Who ใคร (ในเรื่องนั้นมีใครบ้าง)
What ทำอะไร (แต่ละคนทำอะไรบ้าง)
Where ที่ไหน (เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นอยู่ที่ไหน)
When เมื่อไหร่ (เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นทำเมื่อวัน เดือน ปี ใด)
Why ทำไม (เหตุใดจึงได้ทำสิ่งนั้น หรือเกิดเหตุการณ์นั้นๆ)
How อย่างไร (เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นทำเป็นอย่างไรบ้าง)
Who ใคร (ในเรื่องนั้นมีใครบ้าง)
What ทำอะไร (แต่ละคนทำอะไรบ้าง)
Where ที่ไหน (เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นอยู่ที่ไหน)
When เมื่อไหร่ (เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นทำเมื่อวัน เดือน ปี ใด)
Why ทำไม (เหตุใดจึงได้ทำสิ่งนั้น หรือเกิดเหตุการณ์นั้นๆ)
How อย่างไร (เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นทำเป็นอย่างไรบ้าง)
2) เรียนรู้การแสวงหาสารสนเทศ
สืบเสาะ ค้นคว้า(Learning to Search : S)
-
องค์กรที่จัดให้บริการสารสนเทศแก่ผู้ใช้โดยตรง เช่น ห้องสมุด , พิพิธภัณฑ์
หอจดหมายเหตุ , และหอศิลป์
หอจดหมายเหตุ , และหอศิลป์
- แหล่งอื่นที่ไม่ได้บริการโดยตรง เช่น
บุคคล สถานที่ เหตุการณ์
-แหล่งสืบค้น Online
เช่น อินเตอร์เน็ต
3) เรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ สรุป (Learning to Construct : C )
3.1 แหล่งกำเนิดขององค์ความรู้
-
ความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดจากบุคคลอื่น
-
ความรู้เกิดจากประสบการณ์การทำงาน
-
ความรู้ที่ได้จากการวิจัยทดลอง
-
ความรู้จากการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ
-
ความรู้ที่มีปรากฏอยู่ในแหล่งความรู้ภายนอกโรงเรียนและนักเรียนได้นำมาใช้
4) เรียนรู้เพื่อการสื่อสารสื่อสาร สัมพันธ์ (Learning
to Communicate : C)
1. การนำเสนอข้อมูลโดยรายงานวิจัย /บทความ ( Text
Presentation)
2.
การนำเสนอโดยตาราง ( Tabular Presentation )
3.การนำเสนอด้วยกราฟหรือแผนภูมิ ( Graphical Presentation )
4.
การนำเสนอด้วยวาจา
5.
การนำเสนอคลังความรู้ KM ในเว็บไซต์
5). เรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม การให้บริการ (Serve : S)
ทำเป็นนิทรรศการ/โครงงาน ฯลฯ
ทำเป็นแผ่นพับประชาสัมพันธ์
นำเสนอผ่านสื่อ Online /Socialmedia
การประยุกต์
การให้เหตุผล: Reasoning (แบบอุปนัย)
ขั้นที่ 1 ตั้งคำถาม/คาดคะเนคำตอบ/ตั้งสมมติฐาน
ขั้นที่ 2 สืบค้น/แสวงหาสารสนเทศ วางแผน/สำรวจ
ขั้นที่ 3 สังเกตตั้ง
คำถาม เข้าถึงข้อมูล โดย อ่าน ฟัง
ดู จดบันทึก (Literacy)
การให้เหตุผล: Reasoning แบบนิรนัย
ขั้นที่ 2 สืบค้น/แสวงหาสารสนเทศ
ขั้นที่ 3 สร้างองค์ความรู้
*วิเคราะห์ข้อมูล
*สื่อความหมายข้อมูล
*สรุปผล
ขั้นที่ 4 วางแผน/สำรวจสืบค้น/กลั่นกรองข้อมูลการใช้ตัวเลข (Numeracy) ในการวัด/วิเคราะห์
ขั้นที่ 5 นำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้
บริการ/ตอบแทนสังคม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น