วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา

สัปดาร์ที่ 8

การจัดการความรู้
(Knowledge Management-KM)
การจัดการความรู้ หรือเคเอ็ม (KM = Knowledge Management) คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กร ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสาร มาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด โดยที่ความรู้มี 2 ประเภท คือ
          1. ความรู้ที่ฝังอยู่ในคน (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ พรสวรรค์หรือสัญชาติญาณของแต่ละบุคคลในการทำความเข้าใจในสิ่งต่างๆ

          2. ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้ โดยผ่านวิธีต่าง ๆ

การจัดการความรู้เพื่อการบรรลุเป้าหมายอย่างน้อย 4 ประการ
   1. บรรลุเป้าหมายของงาน
   2. บรรลุเป้าหมายการพัฒนาคน
   3. บรรลุเป้าหมายการพัฒนาองค์กรไปเป็นองค์กรเรียนรู้ และ
   4. บรรลุความเป็นชุมชน เป็นหมู่คณะ ความเอื้ออาทรในที่ทำงาน  
การจัดการความรู้เป็นการดำเนินการอย่างน้อย 6 ประการต่อความรู้ ได้แก่
  (1) การกำหนดความรู้หลักที่จำเป็นหรือสำคัญต่องาน  กิจกรรม  กลุ่ม  องค์กร
  (2) การเสาะหาความรู้ที่ต้องการ
  (3) การปรับปรุง ดัดแปลง สร้างความรู้บางส่วน ให้เหมาะต่อการใช้งานของตน
  (4) การประยุกต์ใช้ความรู้ในกิจการงานของตน
  (5) การนำประสบการณ์จากการทำงาน และการประยุกต์ใช้ความรู้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสกัดขุมความรู้ออกมาบันทึกไว้
  (6) การจดบันทึกขุมความรู้และ แก่นความรู้สำหรับไว้ใช้งาน และปรับปรุงเป็นชุดความรู้ที่ครบถ้วน ลุ่มลึกและเชื่อมโยงมากขึ้น
ตั้งเป้าหมายการจัดการความรู้เพื่อพัฒนา
- งาน พัฒนางาน
        - คน พัฒนาคน
        - องค์กร เป็นองค์กรการเรียนรู้
องค์ประกอบสำคัญของการจัดการความรู้ (Knowledge Process)
1. คน เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดเป็นผู้นำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
2.“เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือเพื่อให้คนสามารถค้นหา จัดเก็บ แลกเปลี่ยน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้อย่างง่าย และรวดเร็วขึ้น
3. กระบวนการความรู้ นั้น เป็นการบริหารจัดการ เพื่อนำความรู้จากแหล่งความรู้ไปให้ผู้ใช้ เพื่อทำให้เกิดการปรับปรุง และนวัตกรรม
กระบวนการจัดการความรู้
กระบวนการจัดการความรู้ มีทั้งหมด 7 ขั้นตอน คือ
         1. การบ่งชี้ความรู้ ยุทธศาสตร์ เป้าหมายคืออะไร และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จำเป็นต้องใช้อะไร  เรามีความรู้อะไรบ้าง อยู่ในรูปแบบใด อยู่ที่ใคร
         2. การสร้างและแสวงหาความรู้ เช่นการสร้างความรู้ใหม่ แสวงหาความรู้จากภายนอก รักษาความรู้เก่า กำจัดความรู้ที่ใช้ไม่ได้แล้ว
         3. การจัดความรู้ให้เป็นระบบ เป็นการวางโครงสร้างความรู้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเก็บความรู้อย่างเป็นระบบในอนาคต
         4. การประมวลและกลั่นกรองความรู้ เช่น ปรับปรุงรูปแบบเอกสารให้เป็นมาตรฐาน ใช้ภาษาเดียวกัน ปรับปรุงเนื้อหาให้สมบูรณ์
         5. การเข้าถึงความรู้ เป็นการทำให้ผู้ใช้ความรู้เข้าถึงความรู้ที่ต้องการได้ง่ายและสะดวก เช่น ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) Web board บอร์ดประชาสัมพันธ์        
6. การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ ทำได้หลายวิธีการ อาจจัดทำเป็นเอกสาร ฐานความรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศ       
7. การเรียนรู้ ระบบการเรียนรู้จากสร้างองค์ความรู้ การนำความรู้ในไปใช้ เกิดการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่


Flipped Classroom




ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)เป็นรูปแบบหนึ่งของการสอนโดยที่ผู้เรียนจะได้เรียนรู้จากการบ้านที่ได้รับผ่านการเรียนด้วยตนเองจากสื่อวิดีทัศน์( Video )นอกชั้นเรียนหรือที่บ้าน ส่วนการเรียนในชั้นเรียนปกตินั้นจะเป็นการเรียนแบบสืบค้นหาความรู้ที่ได้รับร่วมกันกับเพื่อนร่วมชั้น โดยมีครูเป็นผู้คอยให้ความช่วยเหลือชี้แนะ

เปรียบเทียบกิจกรรมและเวลาเรียนระหว่างห้องเรียนแบบเดิม
กับห้องเรียนกลับด้าน



การจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน ( Flipped Classroom )จะมีองค์ประกอบสาคัญที่เกิดขึ้น 4 องค์ประกอบ

     1. การกำหนดยุทธวิธีเพิ่มพูนประสบการณ์ ( Experiential Engagement )
     2. การสืบค้นเพื่อให้เกิดมโนทัศน์รวบยอด ( Concept Exploration )
     3. การสร้างองค์ความรู้อย่างมีความหมาย ( Meaning Making )
     4. การสาธิตและประยุกต์ใช้ ( Demonstration & Application ) 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น